พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 2 หน้าที่ 222

@vinayo

พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 2
<< | หน้าที่ 222 | >>

๑๐. กล่าวเสียดสีด้วยคำด่า


กล่าวกับอนุปสัมบันผู้มีคุณสมบัติสูงด้วยคำด่าสุภาพ คือ กล่าวกับอนุปสัมบัน ผู้เป็นบัณฑิต กับอนุปสัมบันผู้เป็นคนฉลาด กับอนุปสัมบันผู้เป็นนักปราชญ์ กับ อนุปสัมบันผู้เป็นพหูสูต กับอนุปสัมบันผู้เป็นธรรมกถึกว่า “ท่านเป็นบัณฑิต ท่าน เป็นคนฉลาด ท่านเป็นนักปราชญ์ ท่านเป็นพหูสูต ท่านเป็นธรรมกถึก ท่านไม่มีทุคติ หวังได้แต่สุคติเท่านั้น” ต้องอาบัติทุพภาสิตทุก ๆ คำพูด

๑. กล่าวเสียดสีด้วยชาติกำเนิด


{๒๕๑}อุปสัมบันไม่ต้องการจะด่า ไม่ต้องการจะสบประมาท ไม่ต้องการจะทำให้ อนุปสัมบันเก้อเขิน แต่ต้องการจะเล่น กล่าวอย่างนี้ว่า “ในพระธรรมวินัยนี้ มี อนุปสัมบันบางพวกเป็นคนจัณฑาล เป็นคนจักสาน เป็นนายพราน เป็นช่างรถ เป็นคนเทขยะ” ฯลฯ

๑๐. กล่าวเสียดสีด้วยคำด่า


“ในพระธรรมวินัยนี้ มีอนุปสัมบันบางพวกเป็นบัณฑิต เป็นคนฉลาด เป็นนัก ปราชญ์ เป็นพหูสูต เป็นธรรมกถึก พวกเขาไม่มีทุคติ หวังได้แต่สุคติเท่านั้น” ต้อง อาบัติทุพภาสิตทุก ๆ คำพูด

๑. กล่าวเสียดสีด้วยชาติกำเนิด


{๒๕๒}อุปสัมบันไม่ต้องการจะด่า ไม่ต้องการจะสบประมาท ไม่ต้องการจะทำให้ อนุปสัมบันเก้อเขิน แต่ต้องการจะเล่น กล่าวอย่างนี้ว่า “อนุปสัมบันพวกใดกันแน่ เป็นคนจัณฑาล เป็นคนจักสาน เป็นนายพราน เป็นช่างรถ เป็นคนเทขยะ” ฯลฯ

๑๐. กล่าวเสียดสีด้วยคำด่า


“อนุปสัมบันพวกใดกันแน่เป็นบัณฑิต เป็นคนฉลาด เป็นนักปราชญ์ เป็นพหูสูต เป็นธรรมกถึก” ต้องอาบัติทุพภาสิตทุก ๆ คำพูด