พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 2 หน้าที่ 221

@vinayo

พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 2
<< | หน้าที่ 221 | >>

๑๐. กล่าวเสียดสีด้วยคำด่า


“ในพระธรรมวินัยนี้ มีภิกษุบางพวกเป็นบัณฑิต เป็นคนฉลาด เป็นนักปราชญ์ เป็นพหูสูต เป็นธรรมกถึก พวกเธอไม่มีทุคติ หวังได้แต่สุคติเท่านั้น” ต้องอาบัติ ทุพภาสิตทุก ๆ คำพูด

๑. กล่าวเสียดสีด้วยชาติกำเนิดต่ำ


{๒๔๘}อุปสัมบันไม่ต้องการจะด่า ไม่ต้องการจะสบประมาท ไม่ต้องการจะทำให้ อุปสัมบันเก้อเขิน แต่ต้องการจะเล่น กล่าวอย่างนี้ว่า “ภิกษุพวกใดกันแน่เป็นคน จัณฑาล เป็นคนจักสาน เป็นนายพราน เป็นช่างรถ เป็นคนเทขยะ” ฯลฯ

๑๐. กล่าวเสียดสีด้วยคำด่า


“ภิกษุพวกใดกันแน่เป็นบัณฑิต เป็นคนฉลาด เป็นนักปราชญ์ เป็นพหูสูต เป็น ธรรมกถึก” ต้องอาบัติทุพภาสิตทุก ๆ คำพูด

๑. กล่าวเสียดสีด้วยชาติกำเนิด


{๒๔๙}อุปสัมบันไม่ต้องการจะด่า ไม่ต้องการจะสบประมาท ไม่ต้องการจะทำให้ อุปสัมบันเก้อเขิน แต่ต้องการจะเล่น กล่าวอย่างนี้ว่า “พวกเราไม่ใช่คนจัณฑาล คนจักสาน นายพราน ช่างรถ คนเทขยะ” ฯลฯ

๑๐. กล่าวเสียดสีด้วยคำด่า


“พวกเราไม่ใช่บัณฑิต คนฉลาด นักปราชญ์ พหูสูต ธรรมกถึก พวกเรา ไม่มีทุคติ หวังได้แต่สุคติเท่านั้น” ต้องอาบัติทุพภาสิตทุก ๆ คำพูด

อุปสัมบันกล่าวเสียดสีอนุปสัมบัน


๑. กล่าวเสียดสีด้วยชาติกำเนิด


{๒๕๐} [๓๔] อุปสัมบันไม่ต้องการจะด่า ไม่ต้องการจะสบประมาท ไม่ต้องการจะ ทำให้อนุปสัมบันเก้อเขิน แต่ต้องการจะเล่น กล่าวกับอนุปสัมบันชาติกำเนิดต่ำด้วย (คำบ่งถึง)ชาติกำเนิดต่ำ ฯลฯ กล่าวกับอนุปสัมบันชาติกำเนิดสูงด้วยชาติกำเนิดต่ำ ฯลฯ กล่าวกับอนุปสัมบันชาติกำเนิดต่ำด้วยชาติกำเนิดสูง ฯลฯ กล่าวกับอนุปสัมบัน ชาติกำเนิดสูงด้วยชาติกำเนิดสูง ฯลฯ