พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 7 หน้าที่ 391

@vinayo

พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 7 หน้าที่ 391

กล่าวดูหมิ่นพระธรรมวินัย เมื่อเดินทางจากเมืองปาวา

พระมหากัสสปะจึงกล่าวว่า พวกเราจะสังคายนาพระสัทธรรม

ก่อนที่อธรรมจะรุ่งเรือง

พระมหากัสสปะคัดเลือกภิกษุทำสังคายนา ๔๙๙ รูป

ต่อมา สงฆ์แนะนำให้เลือกท่านพระอานนท์ด้วย

ภิกษุสงฆ์จำพรรษาอยู่ในถ้ำอันเหมาะที่จะทำสังคายนา

พระธรรมวินัย เมื่อคราวสังคายนา

พระมหากัสสปะถามพระวินัยกับท่านพระอุบาลี

ถามพระสูตรกับท่านพระอานนท์ผู้ชาญฉลาด

สาวกของพระชินเจ้าได้สังคายนาพระไตรปิฎก

สงฆ์ได้สอบถามเกี่ยวกับพุทธดำรัสที่ว่าด้วยอาบัติเล็กน้อย

ต่อจากนั้น จึงลงมติว่าจะปฏิบัติตามที่ทรงบัญญัติ

ต่อจากนั้น สงฆ์ปรับอาบัติท่านพระอานนท์เพราะไม่กราบทูล

ถามเกี่ยวกับอาบัติเล็กน้อย เพราะเหยียบผ้าของพระพุทธองค์

เพราะอนุญาตให้มาตุคามให้ไหว้พระพุทธสรีระจนน้ำตาเปียก

พระพุทธสรีระ เพราะไม่กราบทูลขอให้พระพุทธองค์

ดำรงพระชนม์ชีพอยู่ตลอดกัป เพราะกราบทูลขออนุญาตให้

มาตุคามออกบวช

ท่านพระอานนท์ยอมรับอาบัติทุกกฏเพราะเชื่อฟังภิกษุ

ผู้เถระทั้งหลาย ต่อมา ท่านพระปุราณะเดินทางมาจาก

ทักขิณาคิรีชนบท ไม่ยอมรับผลการสังคายนา

สงฆ์ลงพรหมทัณฑ์แก่พระฉันนะ พระมเหสีของ

พระเจ้าอุเทนถวายลาภสักการะแก่ท่านพระอานนท์ ผ้าได้เกิดขึ้น

เป็นจำนวนมาก ท่านพระอานนท์เอาผ้าจีวรเก่าทำเป็นเพดาน

ทำเป็นปลอกฟูก เป็นผ้าปูพื้น เป็นผ้าเช็ดเท้า เป็นผ้าเช็ดธุลี

ต่อจากนั้นขยำกับโคลนฉาบทาฝา