พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 7 หน้าที่ 368

@vinayo

พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 7 หน้าที่ 368

ต่อมา ภิกษุทั้งหลายเข้าไปที่สำนักภิกษุณี

ยกปาติโมกข์ขึ้นแสดง พระผู้มีพระภาคทรงห้าม

ต่อมาภิกษุณีทั้งหลายไม่รู้วิธีทำคืนอาบัติ

ทรงอนุญาตให้ภิกษุอธิบายให้ภิกษุณีทราบได้

ต่อมา ภิกษุณีไม่ทำ ทรงอนุญาตให้ภิกษุทั้งหลาย

บอกภิกษุณีเกี่ยวกับวิธีทำคืนอาบัติ วิธีรับอาบัติ

ทรงอนุญาตให้ภิกษุทำกรรมแก่ภิกษุณี

คนทั้งหลายตำหนิ ทรงอนุญาตให้ภิกษุณีทำแก่ภิกษุณีด้วยกัน

ต่อมา ภิกษุณีทั้งหลายทะเลาะวิวาทกัน

พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตให้ภิกษุมอบการลงโทษ

ของภิกษุณีให้แก่ภิกษุณี ภิกษุณีอันเตวาสินีของ

ภิกษุณีอุบลวรรณาเรียนวินัยจนสติฟั่นเฟือน

พวกภิกษุฉัพพัคคีย์ใช้น้ำโคลนรดภิกษุณีทั้งหลาย

พวกภิกษุณีฉัพพัคคีย์ใช้น้ำโคลนรดภิกษุทั้งหลายในกรุงสาวัตถี

ด้วยหวังจะให้ฝ่ายตรงข้ามรัก

พระผู้มีพระภาคทรงให้ภิกษุณีประกาศว่าภิกษุนั้นไม่ควรไหว้

ต่อมา พวกภิกษุฉัพพัคคีย์เปิดกาย เปิดขาอ่อน

เปิดองคชาตอวดภิกษุณี พูดเกี้ยวภิกษุณี

พูดชักชวนบุรุษมาคบหาภิกษุณี ภิกษุนั้นภิกษุณีไม่ควรไหว้

พวกภิกษุณีฉัพพัคคีย์ก็ทำเช่นเดียวกัน

พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตให้ลงทัณฑกรรม

โดยการห้ามปรามภิกษุและภิกษุณีผู้ทำเช่นนั้น

เมื่อห้ามปรามไม่เชื่อ พึงงดโอวาท ไม่ควรทำอุโบสถกับภิกษุ

ภิกษุณีผู้ถูกงดโอวาท

ต่อมา พระอุทายีงดโอวาทแล้วหลีกไป

พระผู้มีพระภาคทรงห้ามทำเช่นนั้น