พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 7 หน้าที่ 366

@vinayo

พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 7 หน้าที่ 366

{๖๑๒} สมัยนั้น ภิกษุณีทั้งหลายสรงน้ำที่ท่าอาบน้ำของผู้ชาย คนทั้งหลายตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “ฯลฯ ทำเหมือนหญิงคฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม”

ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ

พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่พึงสรงน้ำที่ท่าอาบน้ำของ ผู้ชาย รูปใดสรง ต้องอาบัติทุกกฏ ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้อาบน้ำที่ท่าอาบ น้ำสตรี”

ตติยภาณวาร จบ


ภิกขุนีขันธกะที่ ๑๐ จบ


ในขันธกะนี้มี ๑๐๑ เรื่อง


รวมเรื่องที่มีในภิกขุนีขันธกะ


{๖๑๓} พระนางมหาปชาบดีโคตมีทูลขอบรรพชา

พระผู้มีพระภาคไม่ทรงอนุญาต

ทรงโปรดเวไนยแล้วเสด็จจากกรุงกบิลพัสดุ์ไปกรุงเวสาลี

พระนางมหาปชาบดีโคตมีออกเดินทางไปกรุงเวสาลี

มีพระวรกายเปรอะเปื้อนฝุ่นธุลี ชี้แจงความประสงค์

ต่อท่านพระอานนท์ที่ซุ้มประตู(กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน)

พระอานนท์กราบทูลแจ้งต่อพระผู้มีพระภาคว่า

มาตุคามเป็นภัพพบุคคล พระนางมหาปชาบดีโคตมี

เป็นพระมาตุจฉา เป็นผู้เลี้ยงดู

พระผู้มีพระภาคทรงกำหนดครุธรรม ๘ อย่าง

ที่ภิกษุณีพึงประพฤติตลอดชีวิต คือ

๑. ภิกษุณีบวชได้ ๑๐๐ พรรษา ต้องกราบไหว้ภิกษุแม้ที่บวชในวันนั้น

๒. ไม่พึงจำพรรษาในอาวาสที่ไม่มีภิกษุ