พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 2
<< | หน้าที่ 217 | >>
กล่าวเสียดสีด้วยคำด่าที่สุภาพ
{๒๔๐} [๒๘] อุปสัมบันต้องการจะด่า ต้องการจะสบประมาท ต้องการจะทำให้ อุปสัมบันเก้อเขิน กล่าวอย่างนี้ว่า “ในพระธรรมวินัยนี้ มีภิกษุบางพวก เป็นบัณฑิต เป็นคนฉลาด เป็นนักปราชญ์ เป็นพหูสูต เป็นธรรมกถึก ภิกษุเหล่านั้นไม่มีทุคติ หวังได้แต่สุคติเท่านั้น” ต้องอาบัติทุกกฏทุก ๆ คำพูด
๑. กล่าวเสียดสีด้วยชาติกำเนิดต่ำ
{๒๔๑} [๒๙] อุปสัมบันต้องการจะด่า ต้องการจะสบประมาท ต้องการจะทำให้
อุปสัมบันเก้อเขิน กล่าวอย่างนี้ว่า “ภิกษุพวกใดกันแน่เป็นคนจัณฑาล เป็นคน
จักสาน เป็นนายพราน เป็นช่างรถ เป็นคนเทขยะ” ต้องอาบัติทุกกฏทุก ๆ
คำพูด ฯลฯ
๑๑๐. กล่าวเสียดสีด้วยคำด่าที่สุภาพ
อุปสัมบันต้องการจะด่า ต้องการจะสบประมาท ต้องการจะทำให้อุปสัมบัน เก้อเขิน กล่าวอย่างนี้ว่า “ภิกษุพวกใดกันแน่เป็นบัณฑิต เป็นคนฉลาด เป็นนัก ปราชญ์ เป็นพหูสูต เป็นธรรมกถึก ภิกษุเหล่านั้นไม่มีทุคติ หวังได้แต่สุคติเท่านั้น” ต้องอาบัติทุกกฏทุก ๆ คำพูด
๑. กล่าวเสียดสีด้วยชาติกำเนิดต่ำ
{๒๔๒} [๓๐] อุปสัมบันต้องการจะด่า ต้องการจะสบประมาท ต้องการจะทำให้
อุปสัมบันเก้อเขิน กล่าวอย่างนี้ว่า “พวกเราไม่ใช่คนจัณฑาล คนจักสาน นายพราน
ช่างรถ คนเทขยะ ฯลฯ
๑๑๐. กล่าวเสียดสีด้วยคำด่าที่สุภาพ
“พวกเราไม่ใช่บัณฑิต คนฉลาด นักปราชญ์ พหูสูต ธรรมกถึก พวกเรา ไม่มีทุคติ หวังได้แต่สุคติเท่านั้น” ต้องอาบัติทุกกฏทุก ๆ คำพูด