พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 1 หน้าที่ 63

@vinayo

พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 1 หน้าที่ 63

เรื่องบัณเฑาะก์ ๑ เรื่อง


สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งเสพเมถุนธรรมกับบัณเฑาะก์ แล้วเกิดความกังวลใจว่า พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติสิกขาบทไว้แล้ว เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำ เรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสว่า “ภิกษุ เธอต้อง อาบัติปาราชิก” (เรื่องที่ ๔๐)

เรื่องภิกษุผู้มีกายประสาทพิการ ๑ เรื่อง


{๖๕} สมัยนั้น ภิกษุผู้มีกายประสาทพิการรูปหนึ่งคิดว่า “เราไม่รู้สึกสุขหรือทุกข์จึง ไม่ต้องอาบัติ” จึงเสพเมถุนธรรม แล้วเกิดความกังวลใจว่า พระผู้มีพระภาคทรง บัญญัติสิกขาบทไว้แล้ว เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงบอกเรื่องนี้ให้ภิกษุทั้ง หลายทราบ พวกภิกษุจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลให้พระผู้มีพระภาคทรงทราบ พระองค์ ตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย โมฆบุรุษนั้นจะรู้สึกหรือไม่รู้สึกก็ตาม ก็ต้องอาบัติปาราชิก” (เรื่องที่ ๔๑)

เรื่องจับต้อง ๑ เรื่อง


{๖๖} สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งคิดจะเสพเมถุนธรรมกับหญิง แต่ครั้นพอจับต้อง เท่านั้นก็เกิดความเดือดร้อนใจ แล้วเกิดความกังวลใจว่า พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติ สิกขาบทไว้แล้ว เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มี พระภาคให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสว่า “ภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ต้อง อาบัติทุกกฏ” (เรื่องที่ ๔๒)

เรื่องพระอรหันต์ชาวเมืองภัททิยะหลับ ๑ เรื่อง


{๖๗} [๗๔] สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งจำวัดกลางวันในป่าชาติยาวัน เขตเมืองภัททิยะ ขณะที่จำวัดหลับ อวัยวะทุกส่วนของท่านถูกลมรำเพยให้แข็งตัว หญิงคนหนึ่งพบเข้า

๑ แก้เป็น “อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส แปลว่า ต้องอาบัติสังฆาทิเสส” เป็นการแก้ความตามนัยบาลีเก่า
(วิ.อ. ๑/๗๓/๓๐๑, สารตฺถ.ฏีกา. ๒/๑๓๐)