พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 1 หน้าที่ 482

@vinayo

พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 1 หน้าที่ 482

ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า “ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนั่งถูกต้องกายกับ มาตุคาม” ถ้าภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า “อาตมานั่งจริง แต่ไม่ได้ถูกต้องกาย” พึงปรับ อาบัติเพราะนั่ง

ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า “ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนั่งถูกต้องกายกับ มาตุคาม” ถ้าภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า “อาตมาไม่ได้นั่ง แต่นอนอยู่” พึงปรับอาบัติ เพราะนอน

ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า “ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนั่งถูกต้องกายกับ มาตุคาม” ถ้าภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า “อาตมาไม่ได้นั่ง แต่นอนอยู่” ไม่พึงปรับอาบัติ

เห็นกำลังนอนถูกต้องกาย


{๖๕๐} ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า “ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนอนถูกต้องกายกับ มาตุคาม” และภิกษุนั้นยอมรับการนอนนั้น พึงปรับตามอาบัติ ฯลฯ “อาตมานอนจริง แต่ไม่ได้ถูกต้องกาย” พึงปรับอาบัติเพราะนอน ฯลฯ “อาตมาไม่ได้นอน แต่นั่งอยู่” พึงปรับอาบัติเพราะนั่ง ฯลฯ “อาตมาไม่ได้นอน แต่ยืนอยู่” ไม่พึงปรับอาบัติ

ได้ยินกำลังนั่งพูดเกี้ยว


{๖๕๑} ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า “ดิฉันได้ยินพระคุณเจ้ากำลังนั่งพูดเกี้ยว มาตุ คามด้วยวาจาชั่วหยาบ” และภิกษุนั้นยอมรับการนั่ง พึงปรับตามอาบัติ

ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า “ดิฉันได้ยินพระคุณเจ้ากำลังนั่งพูดเกี้ยวมาตุ คามด้วยวาจาชั่วหยาบ” ถ้าภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า “อาตมานั่งจริง แต่ไม่ได้พูด เกี้ยวหญิงด้วยวาจาชั่วหยาบ” พึงปรับอาบัติเพราะนั่ง ฯลฯ “อาตมาไม่ได้นั่ง แต่ นอนอยู่” พึงปรับอาบัติเพราะนอน ฯลฯ “อาตมาไม่ได้นั่ง แต่ยืนอยู่” ไม่พึงปรับ อาบัติ

ได้ยินกำลังนอนพูดเกี้ยว


{๖๕๒} ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า “ดิฉันได้ยินพระคุณเจ้ากำลังนอนพูดเกี้ยว มาตุคามด้วยวาจาชั่วหยาบ” และภิกษุนั้นยอมรับการนอน พึงปรับตามอาบัติ ฯลฯ