พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 8 หน้าที่ 14
ต่อมา พระอุบาลีผู้มีปัญญา เชี่ยวชาญในพระวินัย พระมหานาคะผู้มีปัญญามาก ฉลาดในวงศ์พระสัทธรรม
ต่อมา พระอภยะผู้มีปัญญา ฉลาดในพระปิฎกทั้งหมด พระติสสเถระผู้มีปัญญาเชี่ยวชาญในพระวินัย พระสุมนะมีปัญญามาก ผู้เป็นศิษย์ของพระติสสเถระนั้น เป็นพหูสูต
รักษาพระศาสนาต่อกันมาอยู่ในชมพูทวีป
พระจูฬาภยะผู้มีปัญญาและเชี่ยวชาญในพระวินัย พระติสสเถระผู้มีปัญญาฉลาดในวงศ์พระสัทธรรม พระจูฬเทวะผู้มีปัญญาและเชี่ยวชาญในพระวินัยและพระสิวเถระ ผู้มีปัญญา ฉลาดในพระวินัยทั้งหมด
พระเถระผู้ประเสริฐมีปัญญามากเหล่านี้ รู้พระวินัย ฉลาดในมรรค ได้ประกาศพระวินัยปิฎกไว้ในเกาะตามพปัณณิ
๒. กายสังสัคคสิกขาบท
{๑๐} [๙] ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรง เห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแก่ภิกษุผู้ถูกต้องกายกับมาตุคาม ณ ที่ไหน
ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี
ถาม : ทรงปรารภใคร
ตอบ : ทรงปรารภท่านพระอุทายี
ถาม : เพราะเรื่องอะไร
ตอบ : เพราะเรื่องที่ท่านพระอุทายีถูกต้องกายกับมาตุคาม
ในกายสังสัคคสิกขาบทนั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๑ สมุฏฐาน คือ เกิดทางกายกับจิต มิใช่เกิดทางวาจา ฯลฯ