พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 7 หน้าที่ 158

@vinayo

พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 7
<< | หน้าที่ 158 | >>

กุสิ พึงให้ผ้าอัฑฒกุสิ พึงให้ผ้ามณฑล พึงให้ผ้าอัฑฒมณฑล พึงให้ผ้าอนุวาต พึงให้ผ้าปริภัณฑ์ ถ้าสงฆ์มีเนยใส น้ำมัน น้ำผึ้งหรือน้ำอ้อยก็ควรให้ลิ้มได้คราวหนึ่ง ถ้าต้องการอีกก็ควรให้อีก

สาฏิยัคคาหาปกาทิสมมติ


ว่าด้วยการแต่งตั้งภิกษุผู้แจกผ้าเป็นต้น


{๓๓๔} สมัยนั้น สงฆ์ยังไม่มีภิกษุผู้แจกผ้า ฯลฯ ไม่มีภิกษุผู้แจกบาตร ฯลฯ ไม่มีภิกษุผู้ใช้คนวัด ฯลฯ ไม่มีภิกษุผู้ใช้สามเณร สามเณรทั้งหลายที่ภิกษุไม่ใช้ ย่อม ไม่ทำงาน

ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ

พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้แต่งตั้งภิกษุผู้มีคุณสมบัติ ๕ อย่างเป็นผู้ใช้สามเณร คือ

๑. ไม่ลำเอียงเพราะชอบ ๒. ไม่ลำเอียงเพราะชัง

๓. ไม่ลำเอียงเพราะหลง ๔. ไม่ลำเอียงเพราะกลัว

๕. รู้จักงานที่ควรใช้และงานที่ยังไม่ได้ใช้

วิธีแต่งตั้งและกรรมวาจา


{๓๓๕} ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงแต่งตั้งอย่างนี้ เบื้องต้นพึงขอร้องภิกษุ ครั้นแล้วภิกษุ ผู้ฉลาดสามารถพึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติทุติยกรรมวาจาว่า

ท่านผู้เจริญ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ถ้าสงฆ์พร้อมแล้วพึงแต่งตั้งภิกษุชื่อนี้เป็นผู้ ใช้สามเณร นี่เป็นญัตติ

๑ กุสิ คือ ผ้ายาวที่ตั้งติดขอบจีวรทั้ง ๒ ด้าน คั่นระหว่างขัณฑ์กับขัณฑ์ของจีวร
๒ อัฑฒกุสิ คือ ผ้าสั้นที่แทรกอยู่เป็นตอน ๆ ในระหว่างผ้ายาว ดุจคันนาขวาง
๓ มณฑล คือ ผ้ามีบริเวณกว้างใหญ่ในแต่ละขัณฑ์ของจีวร ๕ ขัณฑ์
๔ อัฑฒมณฑล คือ ผ้าชิ้นส่วนของจีวรที่มีบริเวณเล็ก ๆ
๕ อนุวาต คือ ผ้าขอบจีวร (คำอธิบายศัพท์เหล่านี้ทั้งหมด ดู วิ.อ.๓/๓๔๕/๒๑๗)