พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 7
<< | หน้าที่ 53 | >>
ลำดับนั้น สตรีนั้นจึงตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “ไฉนพระคุณเจ้าทั้งหลาย ถูกขอเพื่อเป็นสิริมงคลก็ไม่ยอมเหยียบผ้าเล่า”
ภิกษุทั้งหลายได้ยินสตรีนั้นตำหนิ ประณาม โพนทะนา ภิกษุทั้งหลายจึงนำ เรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย คฤหัสถ์ต้องการสิริมงคล ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุที่ถูกขอเพื่อเป็นสิริมงคลเหยียบผืนผ้าได้”
{๑๒๕} สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายยำเกรงที่จะเหยียบผ้าเช็ดเท้าสะอาด
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้เหยียบผ้าเช็ดเท้าสะอาดได้”
ภาณวารที่ ๒ จบ
เรื่องนางวิสาขามิคารมาตา
{๑๒๖} [๒๖๙] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ภัคคชนบท ตามพระอัธยาศัย แล้วเสด็จจาริกไปทางกรุงสาวัตถี เสด็จจาริกไปโดยลำดับ จนถึงกรุงสาวัตถี ทราบว่า พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี ในกรุง สาวัตถีนั้น
ครั้งนั้น นางวิสาขามิคารมาตาถือหม้อน้ำ ปุ่มไม้ที่เช็ดเท้าและไม้กวาด เข้าไป เฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นถึงแล้ว ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคแล้วนั่ง ณ ที่สมควร กราบทูลว่า “พระองค์โปรดรับหม้อน้ำ ปุ่มไม้ที่เช็ดเท้าและไม้กวาด อันจะเป็นไปเพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่หม่อมฉันตลอดกาลนานเถิด”
พระผู้มีพระภาคทรงรับหม้อน้ำและไม้กวาด แต่ไม่ทรงรับปุ่มไม้ที่เช็ดเท้า จากนั้นพระผู้มีพระภาคทรงชี้แจงให้นางวิสาขามิคารมาตาเห็นชัด ชวนให้อยากรับไปปฏิบัติ เร้าใจให้อาจหาญแกล้วกล้า ปลอบชโลมใจให้สดชื่นร่าเริงด้วยธรรมีกถา