พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 6
<< | หน้าที่ 231 | >>
อัพภานารหมูลายปฏิกัสสนาทิ
ว่าด้วยการชักภิกษุผู้ควรแก่อัพภานเข้าหาอาบัติเดิมเป็นต้น
{๔๓๓} [๑๓๑] ท่านพระอุทายีนั้น ประพฤติมานัตแล้ว ควรแก่อัพภาน ต้องอาบัติ ๑ ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ในระหว่าง ปิดไว้ ๕ วัน บอกแก่ภิกษุทั้งหลาย ว่า “ท่านทั้งหลาย กระผมต้องอาบัติ ๑ ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดไว้ ๑ ปักษ์ ฯลฯ กระผมนั้นประพฤติมานัตแล้ว เป็นผู้ควรแก่อัพภาน ต้องอาบัติ ๑ ตัวชื่อ สัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ในระหว่าง ปิดไว้ ๕ วัน กระผมจะปฏิบัติอย่างไร”
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ถ้าเช่นนั้น สงฆ์จงชักภิกษุอุทายีเข้า หาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติ ๑ ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ในระหว่าง ปิดไว้ ๕ วัน แล้วให้สโมธานปริวาส เพื่ออาบัติตัวก่อน แล้วให้มานัต ๖ ราตรี
{๔๓๔} ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงชักภิกษุอุทายีนั้นเข้าหาอาบัติเดิมอย่างนี้ ฯลฯ
{๔๓๕} ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้สโมธานปริวาสเพื่ออาบัติตัวก่อนอย่างนี้ ฯลฯ
{๔๓๖} ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้มานัต ๖ ราตรีอย่างนี้ ฯลฯ สงฆ์ให้ ฯลฯ
มานัต ๖ ราตรี เพื่ออาบัติ ๑ ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ในระหว่าง ปิดไว้ ๕ วัน สงฆ์ให้แล้วแก่ภิกษุอุทายี สงฆ์เห็นด้วย เพราะฉะนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าขอถือ ความนิ่งนั้นเป็นมติอย่างนี้”
ปักขปฏิจฉันนอัพภาน
ว่าด้วยอัพภานสำหรับอาบัติที่ปิดไว้ ๑ ปักษ์และกรรมวาจา
{๔๓๗} [๑๓๒] ท่านพระอุทายีนั้นประพฤติมานัตแล้ว บอกแก่ภิกษุทั้งหลายว่า “ท่าน ทั้งหลาย กระผมต้องอาบัติ ๑ ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดไว้ ๑ ปักษ์ ฯลฯ กระผมนั้นประพฤติมานัดแล้ว กระผมจะปฎิบัติอย่างไร”
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ถ้าเช่นนั้น สงฆ์จงอัพภานภิกษุอุทายี”