พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 6
<< | หน้าที่ 155 | >>
ไม่ขอโอกาสภิกษุอื่น ไม่โจทภิกษุอื่น ไม่ให้ภิกษุอื่นให้การ
และไม่ชักชวนกันก่อความทะเลาะ
สงฆ์ไม่พึงระงับตัชชนียกรรมแก่ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ คือ ให้อุปสมบท ให้นิสัย ใช้สามเณรอุปัฏฐาก สั่งสอนภิกษุณี แม้ได้รับแต่งตั้งแล้วก็ยังสั่งสอน และองค์ ๕ อีกอย่างหนึ่ง คือ ต้องอาบัตินั้น ต้องอาบัติอื่นทำนองเดียวกันนั้น ต้องอาบัติ ที่เลวทรามกว่านั้น ตำหนิกรรม ตำหนิภิกษุผู้ทำกรรม
ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๘ คือ งดอุโบสถ ปวารณา ทำการไต่สวน เริ่มอนุวาทาธิกรณ์ ให้ทำโอกาส โจทภิกษุอื่น ให้ภิกษุอื่นให้การและให้ต่อสู้อธิกรณ์กัน ย่อมไม่พ้นความผิด จากตัชชนียกรรม
นักวินัยพึงทราบฝ่ายถูกตามนัยตรงข้ามกับฝ่ายที่ผิดนั้น
ภิกษุเสยยสกะโง่เขลา มีอาบัติมากและคลุกคลีกับ คฤหัสถ์ พระสัมพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นพระมหามุนี รับสั่งให้ลง นิยสกรรม
ภิกษุชื่ออัสสชิและชื่อปุนัพพสุกะอยู่ในกีฏาคีรีชนบท ไม่สำรวม ประพฤติไม่สมควรต่าง ๆ พระสัมพุทธชินเจ้า รับสั่งให้ลงปัพพาชนียกรรมในกรุงสาวัตถี
ภิกษุสุธรรมอยู่ประจำในอาวาสของจิตตคหบดี ในเมือง มัจฉิกาสณฑ์ ด่าจิตตอุบาสกด้วยคำหยาบ กระทบชาติกำเนิด พระตถาคตรับสั่งให้ลงปฏิสารณียกรรม
ภิกษุฉันนะไม่ปรารถนาจะรู้เห็นอาบัติ พระชินเจ้าผู้อุดม รับสั่งให้ลงอุกเขปนียกรรม เพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติในกรุงโกสัมพี
ภิกษุฉันนะไม่ปรารถนาจะทำคืนอาบัตินั้น พระพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นนายกพิเศษรับสั่งให้ลงอุกเขปนียกรรมเพราะไม่ทำคืนอาบัติ