พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 6 หน้าที่ 110

@vinayo

พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 6
<< | หน้าที่ 110 | >>

แม้ครั้งที่ ๓ ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ว่า ท่านผู้เจริญ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุ ชื่อฉันนะนี้ต้องอาบัติแล้วไม่ปรารถนาจะทำคืนอาบัติ สงฆ์ลงอุกเขปนียกรรมเพราะ ไม่ทำคืนอาบัติแก่ภิกษุชื่อฉันนะ ห้ามสมโภคกับสงฆ์ ท่านรูปใดเห็นด้วยกับการลง อุกเขปนียกรรมเพราะไม่ทำคืนอาบัติแก่ภิกษุชื่อฉันนะ ห้ามสมโภคกับสงฆ์ ท่าน รูปนั้นพึงนิ่ง ท่านรูปใดไม่เห็นด้วย ท่านรูปนั้นพึงทักท้วง

อุกเขปนียกรรมเพราะไม่ทำคืนอาบัติ สงฆ์ลงแก่ภิกษุชื่อฉันนะแล้ว ห้ามสมโภค กับสงฆ์ สงฆ์เห็นด้วย เพราะเหตุนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าขอถือเอาความนิ่งนั้นเป็นมติ อย่างนี้”

ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงบอกภิกษุในอาวาสต่อ ๆ ไปว่า “ภิกษุชื่อฉันนะ ถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรมเพราะไม่ทำคืนอาบัติ ห้ามสมโภคกับสงฆ์”

อธัมมกัมมทวาทสกะ


ว่าด้วยอุกเขปนียกรรม


เพราะไม่ทำคืนอาบัติที่ไม่ชอบธรรม ๑๒ หมวด


หมวดที่ ๑


{๒๒๗} [๕๗] ภิกษุทั้งหลาย อุกเขปนียกรรมเพราะไม่ทำคืนอาบัติ ประกอบด้วย องค์ ๓ ที่จัดว่าเป็นกรรมไม่ชอบด้วยธรรม เป็นกรรมไม่ชอบด้วยวินัย และระงับ ไม่ดี คือ

๑. ลงลับหลัง ๒. ลงโดยไม่สอบถาม

๓. ไม่ลงตามปฏิญญา

ภิกษุทั้งหลาย อุกเขปนียกรรมเพราะไม่ทำคืนอาบัติ ประกอบด้วยองค์ ๓ เหล่านี้ แล ที่จัดว่าเป็นกรรมไม่ชอบด้วยธรรม เป็นกรรมไม่ชอบด้วยวินัย แลระงับไม่ดี