พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 6 หน้าที่ 48

@vinayo

พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 6 หน้าที่ 48

แม้ครั้งที่ ๓ ข้าพเจ้าก็กล่าวความนี้ว่า ท่านผู้เจริญ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุชื่อว่าอัสสชิและปุนัพพสุกะเหล่านี้ประทุษร้ายตระกูล ประพฤติเลวทราม ความ ประพฤติของภิกษุเหล่านั้น เขาได้เห็นและได้ยินกันทั่ว และตระกูลทั้งหลายที่ถูกภิกษุ เหล่านั้นประทุษร้าย เขาก็ได้เห็นและได้ยินกันทั่ว สงฆ์ลงปัพพาชนียกรรมพวกภิกษุ ชื่ออัสสชิและปุนัพพสุกะให้ไปจากกีฏาคิรีชนบทโดยประกาศว่า ‘ภิกษุชื่อว่าอัสสชิ และ ปุนัพพสุกะ ไม่พึงอยู่ในกีฏาคิรีชนบท’ ท่านรูปใดเห็นด้วยกับการลงปัพพาชนียกรรม แก่ภิกษุชื่อว่าอัสสชิและปุนัพพสุกะให้ไปจากกีฏาคิรีชนบทโดยประกาศว่า ‘ภิกษุชื่อว่า อัสสชิและปุนัพพสุกะไม่พึงอยู่ในกีฏาคิรีชนบท’ ท่านรูปนั้นพึงนิ่ง ท่านรูปใดไม่เห็นด้วย ท่านรูปนั้นพึงทักท้วง

ปัพพาชนียกรรมให้ไปจากกีฏาคิรีชนบท สงฆ์ลงแล้วแก่ภิกษุชื่อว่าอัสสชิและ ปุนัพพสุกะ โดยประกาศว่า ‘ภิกษุชื่อว่าอัสสชิและปุนัพพสุกะไม่พึงอยู่ในกีฏาคิรีชนบท’ สงฆ์เห็นด้วย เพราะฉะนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าขอถือเอาความนิ่งนั้นเป็นมติอย่างนี้”

อธัมมกัมมทวาทสกะ


ว่าด้วยปัพพาชนียกรรมที่ไม่ชอบธรรม ๑๒ หมวด


หมวดที่ ๑


{๘๙} [๒๕] ภิกษุทั้งหลาย ปัพพาชนียกรรมประกอบด้วยองค์ ๓ ที่จัดว่าเป็นกรรม ไม่ชอบด้วยธรรม เป็นกรรมไม่ชอบด้วยวินัย และระงับไม่ดี คือ

๑. ลงลับหลัง ๒. ลงโดยไม่สอบถาม

๓. ไม่ลงตามปฏิญญา

ภิกษุทั้งหลาย ปัพพาชนียกรรมประกอบด้วยองค์ ๓ เหล่านี้แล ที่จัดว่าเป็น กรรมไม่ชอบด้วยธรรม เป็นกรรมไม่ชอบด้วยวินัย และระงับไม่ดี