พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 6 หน้าที่ 6

@vinayo

พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 6 หน้าที่ 6

๑. ลงลับหลัง ๒. ลงโดยไม่สอบถาม

๓. ไม่ลงตามปฏิญญา

ภิกษุทั้งหลาย ตัชชนียกรรมที่ประกอบด้วยองค์ ๓ เหล่านี้แล ที่จัดว่าเป็น กรรมไม่ชอบด้วยธรรม เป็นกรรมไม่ชอบด้วยวินัย และระงับไม่ดี (๑)

หมวดที่ ๒


{๕} ภิกษุทั้งหลาย ตัชชนียกรรมประกอบด้วยองค์ ๓ อีกอย่างหนึ่ง ที่จัดว่าเป็น กรรมไม่ชอบด้วยธรรม เป็นกรรมไม่ชอบด้วยวินัย และระงับไม่ดี คือ

๑. ลงเพราะไม่ต้องอาบัติ ๒. ลงเพราะอาบัติที่เป็นอเทสนาคามินี๒

๓. ลงเพราะอาบัติที่แสดงแล้ว

ภิกษุทั้งหลาย ตัชชนียกรรมที่ประกอบด้วยองค์ ๓ เหล่านี้แล ที่จัดว่าเป็น กรรมไม่ชอบด้วยธรรม เป็นกรรมไม่ชอบด้วยวินัย และระงับไม่ดี (๒)

หมวดที่ ๓


{๖} ภิกษุทั้งหลาย ตัชชนียกรรมประกอบด้วยองค์ ๓ อีกอย่างหนึ่ง ที่จัดว่าเป็น กรรมไม่ชอบด้วยธรรม เป็นกรรมไม่ชอบด้วยวินัย และระงับไม่ดี คือ

๑. ไม่โจทก่อนแล้วจึงลง ๒. ไม่ให้จำเลยให้การก่อนแล้วจึงลง

๓. ไม่ปรับอาบัติก่อนแล้วจึงลง

ภิกษุทั้งหลาย ตัชชนียกรรมที่ประกอบด้วยองค์ ๓ เหล่านี้แล ที่จัดว่าเป็น กรรมไม่ชอบด้วยธรรม เป็นกรรมไม่ชอบด้วยวินัย และระงับไม่ดี (๓)

๑ ลงลับหลัง หมายถึงลงโดยที่สงฆ์ ธรรมวินัยและบุคคลไม่อยู่พร้อมหน้ากัน (วิ.อ. ๓/๔/๒๕๑)
๒ อาบัติที่เป็นอเทสนาคามินี ได้แก่ อาบัติปาราชิกและอาบัติสังฆาทิเสส (วิ.อ. ๓/๔/๒๕๑) ที่ชื่อว่าอเทสนาคามินี เพราะเป็นอาบัติที่ไม่อาจพ้นได้ด้วยการแสดง