พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 5 หน้าที่ 37

@vinayo

พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 5 หน้าที่ 37

ท่านพระโสณะกราบทูลว่า “ข้าพระองค์เห็นโทษในกามนานแล้ว แต่ผู้ครองเรือน วุ่นวาย มีกิจมาก มีธุระมาก พระพุทธเจ้าข้า”

ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทราบเรื่องนี้แล้ว จึงทรงเปล่งพระอุทานว่า

“อารยชนเห็นโทษในโลก รู้ธรรมที่ไม่มีอุปธิ

จึงไม่ยินดีในบาป เพราะคนบริสุทธิ์ ย่อมไม่ยินดีในบาป”

{๒๒} ลำดับนั้น ท่านพระโสณะคิดว่า “พระผู้มีพระภาคกำลังทรงชื่นชมเรา เวลานี้ ควรกราบทูลคำสั่งของพระอุปัชฌาย์” จึงลุกจากอาสนะ ห่มอุตตราสงค์เฉวียงบ่า ข้างหนึ่ง หมอบลงแทบพระบาทของพระผู้มีพระภาคด้วยเศียรเกล้า กราบทูลพระผู้ มีพระภาคดังนี้ว่า “ท่านพระมหากัจจานะผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ของข้าพระองค์ ขอกราบ ถวายอภิวาทแทบพระบาทของพระพระผู้มีพระภาคด้วยเศียรเกล้า สั่งให้กราบทูลว่า

๑. พระพุทธเจ้าข้า อวันตีทักขิณาบถ มีภิกษุน้อย ข้าพระองค์จัดหา ภิกษุสงฆ์จากที่นั้น ๆ ให้ครบองค์ประชุม คือ ๑๐ รูป ได้ยาก ลำบาก เวลาล่วงไปถึง ๓ ปี จึงได้อุปสมบท ถ้ากระไร พระผู้มี พระภาค พึงทรงอนุญาตให้อุปสมบทด้วยคณะสงฆ์น้อยรูปกว่านี้ได้ เฉพาะในอวันตีทักขิณาบถ

๒. พระพุทธเจ้าข้า พื้นดินในอวันตีทักขิณาบถ มีสีดำมาก แข็ง มี รอยระแหงกีบโค ถ้ากระไร พระผู้มีพระภาคพึงทรงอนุญาตรองเท้า หลายชั้น เฉพาะในอวันตีทักขิณาบถ

๓. พระพุทธเจ้าข้า พวกมนุษย์ในอวันตีทักขิณาบถนิยมการอาบน้ำ ถือว่าน้ำจะทำให้สะอาด ถ้ากระไร พระผู้มีพระภาคพึงทรงอนุญาต การอาบน้ำได้เป็นนิตย์ เฉพาะในอวันตีทักขิณาบถ

๑ วุ่นวายอยู่กับกรณียกิจน้อยใหญ่ (ขุ.อุ.อ. ๔๖/๓๓๕)
๒ คือเป็นผู้มีความประพฤติทางกายเป็นต้นบริสุทธิ์สม่ำเสมอ (ขุ.อุ.อ. ๔๖/๓๓๖)
๓ ขุ.อุ. ๒๕/๔๖/๑๗๕