พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 1 หน้าที่ 21
@vinayo
พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 1 หน้าที่ 21
มาก ซึ่งล้วนแต่เป็นครอบครัวมั่งคั่งมีทรัพย์มาก มีโภคะมาก มีเงินมีทองมาก มี เครื่องประดับมาก มีทรัพย์และข้าวเปลือกมาก ๑ อย่ากระนั้นเลย เราควรจะไปอาศัย พวกญาติอยู่ ถึงพวกญาติก็จะอาศัยเราทำบุญถวายทาน ภิกษุทั้งหลายจักมีลาภ และเราก็ไม่เดือดร้อนเรื่องบิณฑบาต
ครั้งนั้น ท่านพระสุทินจึงเก็บเสนาสนะถือบาตรและจีวรแล้วจาริกไปทางกรุง เวสาลี เที่ยวจาริกไปโดยลำดับ จนถึงกรุงเวสาลี ทราบว่า ท่านพระสุทินพักอยู่ ณ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน เขตกรุงเวสาลีนั้น
บรรดาญาติของท่านพอทราบข่าวว่า พระสุทินกลันทบุตรกลับมากรุงเวสาลี จึงนำอาหาร ๖๐ สำรับไปถวาย ท่านสละอาหารทั้งหมดถวายภิกษุทั้งหลายแล้ว ครองอันตรวาสกถือบาตรและจีวรเข้าไปบิณฑบาตที่หมู่บ้านกลันทคามในตอนเช้า เที่ยวบิณฑบาตไปในหมู่บ้านกลันทคามตามลำดับเรือน เดินตรงไปทางบ้านโยมบิดา
[๓๑] พอดีขณะนั้น ทาสหญิงของญาติกำลังจะทิ้งขนมกุมมาสค้างคืน ท่าน บอกทาสหญิงว่า “ถ้าจะทิ้งสิ่งนั้น ก็จงใส่บาตรของอาตมาเถิด” ขณะที่ทาสหญิง กำลังเกลี่ยขนมกุมมาสค้างคืนลงบาตร นางจำเค้ามือ เท้า และน้ำเสียงของพระสุทิน ได้ จึงรีบเข้าไปหามารดาของท่านแล้วกล่าวว่า “คุณนายเจ้าขา โปรดทราบเถิดว่า พระสุทินบุตรคุณนายกลับมาแล้ว เจ้าค่ะ”
มารดาของพระสุทินกล่าวว่า “ถ้าเธอพูดจริง เราจะปลดปล่อยเธอให้เป็นไท”
[๓๒] ขณะที่ท่านพระสุทินกำลังนั่งพิงฝาเรือนแห่งหนึ่งฉันขนมกุมมาสค้าง คืนอยู่ พอดีโยมบิดาของท่านเดินกลับจากทำงาน ได้เห็นท่านกำลังนั่งฉันขนมกุม มาสค้างคืนอยู่ ครั้นเห็นแล้วจึงตรงเข้าไปหาถึงที่ ครั้นถึงแล้วได้กล่าวกับท่านพระ สุทินดังนี้ว่า “อะไรกันลูกสุทิน ลูกฉันขนมกุมมาสค้างคืนหรือ ลูกควรไปบ้านของลูก มิใช่หรือ”