พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 4 หน้าที่ 173

พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 4
<< | หน้าที่ 173 | >>

๔๗. ปัณฑกวัตถุ


ว่าด้วยบัณเฑาะก์บรรพชา


ห้ามบัณเฑาะก์ อุปสมบท


{๑๒๕} [๑๐๙] สมัยนั้น บัณเฑาะก์คนหนึ่งได้บรรพชาในหมู่ภิกษุ เขาเข้าไปหาภิกษุ หนุ่ม ๆ พูดชวนว่า “นี้พวกท่านจงมาประทุษร้ายผมเถิด ขอรับ”

พวกพระหนุ่มพูดไล่ว่า “เจ้าบัณเฑาะก์จงฉิบหาย เจ้าบัณเฑาะก์จงพินาศ เจ้าจะมีประโยชน์อะไร”

เขาถูกพวกภิกษุไล่ จึงเข้าไปหาพวกสามเณรโค่งร่างใหญ่ กำยำ พูดชวนว่า “พวกเธอจงมาประทุษร้ายผมเถิด ขอรับ”

พวกสามเณรก็พูดรุกรานว่า “เจ้าบัณเฑาะก์จงฉิบหาย เจ้าบัณเฑาะก์จงพินาศ เจ้าจะมีประโยชน์อะไร”

เขาถูกพวกสามเณรพูดรุกราน จึงเข้าไปหาพวกคนเลี้ยงช้าง พวกคนเลี้ยงม้า พูดชวนว่า “พวกคุณจงมาประทุษร้ายเราเถิด จ้ะ”

พวกคนเลี้ยงช้าง พวกคนเลี้ยงม้าชำเราแล้ว ก็พากันตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “พระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรเหล่านี้เป็นบัณเฑาะก์ บรรดาสมณะ

๑ บัณเฑาะก์มี ๕ ประเภท คือ
๑. คนที่ดับความใคร่เร่าร้อน (เพราะกาม) ของตนโดยการใช้ปากอมองคชาตของผู้อื่นแล้วให้น้ำอสุจิราด ตัวเอง ชื่อว่า อาสิตตบัณเฑาะก์
๒. คนที่เมื่อเห็นผู้อื่นประพฤติล่วงเกินทางเพศกัน เกิดความริษยาขึ้น ความเร่าร้อนจึงระงับไป ชื่อว่า อุสูยบัณเฑาะก์
๓. คนที่ถูกตัดองคชาต ชื่อว่า โอปักกมิกบัณเฑาะก์
๔. คนที่เป็นบัณเฑาะก์ในเวลาข้างแรมด้วยอานุภาพอกุศลวิบาก แต่ในเวลาข้างขึ้น ความเร่าร้อน ย่อมระงับไป ชื่อว่า ปักขบัณเฑาะก์
๕. คนที่เป็นบัณเฑาะก์โดยกำเนิด ชื่อว่า นปุงสกบัณเฑาะก์ ในบัณเฑาะก์ ๕ ประเภทนี้ อาสิตตบัณเฑาะก์ และอุสูยบัณเฑาะก์ ไม่ห้ามบรรพชา ส่วนบัณเฑาะก์อีก ๓ ประเภทที่เหลือ ห้ามบรรพชา อนึ่งในกุรุนทีกล่าวว่า ปักขบัณเฑาะก์ ห้ามบรรพชาเฉพาะในปักษ์ที่เป็น บัณเฑาะก์ (ข้างแรม) (วิ.อ. ๓/๑๐๙/๘๑-๘๒)
๒ ประทุษร้าย ในที่นี้ หมายถึง ร่วมเพศ เสพสังวาสกัน