พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 4 หน้าที่ 17

@vinayo

พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 4 หน้าที่ 17

เมื่ออุปกาชีวกทูลถามดังนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสคาถาตอบอุปกาชีวกว่า

“เราเป็นผู้ครอบงำธรรมทั้งปวง รู้ธรรมทั้งปวง

มิได้แปดเปื้อนในธรรมทั้งปวง ละธรรมทั้งปวงได้สิ้นเชิง

หลุดพ้นเพราะสิ้นตัณหา ตรัสรู้ยิ่งเอง

แล้วจะพึงกล่าวอ้างใครเล่า

เราไม่มีอาจารย์ เราไม่มีผู้เสมอเหมือน

เราไม่มีผู้ทัดเทียม ในโลกกับทั้งเทวโลก

เพราะเราเป็นอรหันต์ เป็นศาสดาผู้ยอดเยี่ยม

เป็นผู้ตรัสรู้ชอบเองเพียงผู้เดียว เป็นผู้เยือกเย็น

ดับกิเลสได้แล้วในโลก

เราจะไปเมืองหลวงแห่งชาวกาสี ประกาศธรรมจักร

ตีกลองอมตธรรมไปในโลกอันมีความมืดมน”

อุปกาชีวกทูลว่า “อาวุโส ท่านสมควรเป็นพระอนันตชินะตามที่ท่านประกาศ”

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

“ชนเหล่าใดได้ถึงความสิ้นอาสวะแล้ว

ชนเหล่านั้นย่อมเป็นพระชินะเช่นเรา

อุปกะ เราชนะความชั่วได้แล้ว

เพราะฉะนั้น เราจึงชื่อว่าพระชินะ”

เมื่อพระผู้มีพระภาคได้ตรัสดังนี้แล้ว อุปกาชีวกจึงทูลว่า “อาวุโส ควรจะเป็น อย่างนั้น” โคลงศีรษะแล้วเดินสวนทางหลีกไป

๑ ธรรมทั้งปวง ในที่นี้หมายถึงธรรมอันเป็นไปในภูมิ ๓ (วิ.อ. ๓/๑๑/๑๖)
๒ ธรรมทั้งปวง ในที่นี้หมายถึงธรรมอันเป็นไปในภูมิ ๔ (วิ.อ. ๓/๑๑/๑๖)
๓ ธรรมทั้งปวง ในที่นี้หมายถึงธรรมอันเป็นไปในภูมิ ๓ (วิ.อ. ๓/๑๑/๑๖)
๔ ธรรมทั้งปวง ในที่นี้หมายถึงธรรมอันเป็นไปในภูมิ ๓ (วิ.อ. ๓/๑๑/๑๖)
๕ เราไม่มีอาจารย์ ในที่นี้หมายถึงไม่มีอาจารย์ในระดับโลกุตตรธรรม (วิ.อ. ๓/๑๑/๑๗)
๖ ม.มู. ๑๒/๒๘๕/๒๔๖, ม.ม. ๑๓/๓๔๑/๓๒๓ อภิ.ก. ๓๗/๔๐๕/๒๔๕