พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 4 หน้าที่ 6

@vinayo

พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 4 หน้าที่ 6

ปฏิจจสมุปบาทโดยปฏิโลม


อนึ่ง เพราะอวิชชาดับไปไม่เหลือด้วยวิราคะ สังขารจึงดับ

เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ

เพราะวิญญาณดับ นามรูปจึงดับ

เพราะนามรูปดับ สฬายตนะจึงดับ

เพราะสฬายตนะดับ ผัสสะจึงดับ

เพราะผัสสะดับ เวทนาจึงดับ

เพราะเวทนาดับ ตัณหาจึงดับ

เพราะตัณหาดับ อุปาทานจึงดับ

เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ

เพราะภพดับ ชาติจึงดับ

เพราะชาติดับ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาสจึงดับ

กองทุกข์ทั้งมวลนี้มีการดับด้วยอาการอย่างนี้

ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนั้นแล้ว จึงทรงเปล่งอุทานนี้ ในเวลานั้นว่า

พุทธอุทานคาถาที่ ๓


เมื่อใดแล ธรรมทั้งหลายปรากฏแก่พราหมณ์

ผู้มีความเพียร เพ่งอยู่

เมื่อนั้น พราหมณ์นั้นย่อมกำจัดมารและเสนา เสียได้

ดุจพระอาทิตย์อุทัยขึ้นสาดส่องท้องฟ้าให้สว่างไสวฉะนั้น

โพธิกถา จบ


๑ พุทธอุทานที่ ๓ นี้ เกิดขึ้นด้วยอำนาจการที่ทรงพิจารณามรรค (วิ.อ. ๓/๓/๖)
๒ มารและเสนามาร ในที่นี้หมายถึงกามทั้งหลาย (วิ.อ. ๓/๓/๖)