พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 3 หน้าที่ 350

พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 3
<< | หน้าที่ 350 | >>

พระบัญญัติ


[๑๑๖๓] ก็ภิกษุณีใดบวชให้สิกขมานาที่มารดาบิดาหรือสามียังไม่ได้อนุญาต ต้องอาบัติปาจิตตีย์

เรื่องภิกษุณีถุลลนันทา จบ


สิกขาบทวิภังค์


{๔๓๓} [๑๑๖๔] คำว่า ก็ ... ใด คือ ผู้ใด ผู้เช่นใด ฯลฯ นี้ที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ก็ ... ใด

คำว่า ภิกษุณี มีอธิบายว่า ชื่อว่าภิกษุณี เพราะเป็นผู้ขอ ฯลฯ นี้ที่พระผู้มี พระภาคทรงประสงค์เอาว่า ภิกษุณี ในความหมายนี้

ที่ชื่อว่า มารดาบิดา พระผู้มีพระภาคตรัสหมายถึงผู้ให้กำเนิด

ที่ชื่อว่า สามี ได้แก่ ผู้ที่ครอบครองหญิง

คำว่า ยังไม่ได้อนุญาต คือ ยังมิได้บอกลา

ที่ชื่อว่า สิกขมานา ได้แก่ สามเณรีผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม ๖ ข้อตลอด ๒ ปี

คำว่า บวชให้ คือ อุปสมบทให้

ภิกษุณีตั้งใจว่า “จะบวชให้” แล้วแสวงหาคณะ อาจารย์ บาตรหรือจีวร หรือสมมติสีมา ต้องอาบัติทุกกฏ จบญัตติ ต้องอาบัติทุกกฏ จบกรรมวาจา ๒ ครั้ง ต้องอาบัติทุกกฏ ๒ ตัว จบกรรมวาจาครั้งสุดท้าย ภิกษุณีผู้เป็นอุปัชฌาย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ คณะและอาจารย์ ต้องอาบัติทุกกฏ

อนาปัตติวาร


ภิกษุณีต่อไปนี้ไม่ต้องอาบัติ คือ

{๔๓๔} [๑๑๖๕] ๑. ภิกษุณีไม่รู้จึงบวชให้

๒. ภิกษุณีขออนุญาตก่อนค่อยบวชให้

๓. ภิกษุณีวิกลจริต

๔. ภิกษุณีต้นบัญญัติ

สิกขาบทที่ ๑๐ จบ