พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 3 หน้าที่ 123

@vinayo

พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 3
<< | หน้าที่ 123 | >>

จึงออกปากทูลขอผ้าเปลือกไม้จากพระราชาเล่า” ครั้นแล้ว ภิกษุณีเหล่านั้นได้นำ เรื่องนี้ไปบอกภิกษุทั้งหลายให้ทราบ พวกภิกษุจึงได้นำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มี พระภาคให้ทรงทราบ

ทรงประชุมสงฆ์บัญญัติสิกขาบท


ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมสงฆ์เพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ ทรง สอบถามภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษุทั้งหลาย ทราบว่า ภิกษุณีถุลลนันทาออกปาก ทูลขอผ้าเปลือกไม้จากพระราชา จริงหรือ” ภิกษุทั้งหลายทูลรับว่า “จริง พระ พุทธเจ้าข้า” พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิว่า “ฯลฯ ภิกษุทั้งหลาย ไฉน ภิกษุณีถุลลนันทาจึงออกปากทูลขอผ้าเปลือกไม้จากพระราชาเล่า ภิกษุทั้งหลาย การกระทำอย่างนี้ มิได้ทำคนที่ยังไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส หรือทำคนที่เลื่อมใสอยู่ แล้วให้เลื่อมใสยิ่งขึ้นได้เลย ฯลฯ” แล้วจึงรับสั่งให้ภิกษุณีทั้งหลายยกสิกขาบทนี้ขึ้น แสดงดังนี้

พระบัญญัติ


[๗๘๙] ก็ภิกษุณีเมื่อจะขอผ้าห่มบาง พึงขอได้เพียงราคา ๒ กังสะครึ่ง เป็นอย่างมาก ถ้าขอเกินกว่านั้น ต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์

เรื่องภิกษุณีถุลลนันทา จบ


สิกขาบทวิภังค์


{๑๔๓} [๗๙๐] ที่ชื่อว่า ผ้าห่มบาง ได้แก่ ผ้าห่มชนิดหนึ่งที่ใช้ในฤดูร้อน

คำว่า เมื่อจะขอ คือ เมื่อจะออกปากขอ

คำว่า พึงขอได้เพียงราคา ๒ กังสะครึ่งเป็นอย่างมาก คือ พึงขอผ้ามีราคา ๑๐ กหาปณะได้

๑ หมายถึงผ้าห่มเนื้อบางสำหรับห่มในฤดูร้อน (อุณฺหกาเล หิ มนุสฺสา สุขุมปาวุรณํ ปารุปนฺติ -ปาจิตฺยาทิโยชนา ๗๘๙/๑๕๘ ม.)